วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

On 02:58 by EForL in ,    No comments
โทนี่ เฟอร์นานเดส ซีอีโอของแอร์เอเชียขึ้นเวทีเพื่อแบ่งปันเคล็ดคลับความสำเร็จในการทำให้แบรนด์เติบโตและเป็นที่รู้จัก หลังจากที่เขาเริ่มธุรกิจนี้เมื่อ 15 ปีก่อนโดยที่ไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจสายการบินเท่ากับศูนย์ ก่อนจะเปลี่ยนแอร์เอเชียจากธุรกิจที่มีเครื่องบินเพียงแค่ 2 ลำมาเป็นสายการบินที่มีคนใช้บริการปีละหลายสิบล้านคนอย่างในปัจจุบัน













อย่ากลัวความล้มเหลว


ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าของสายการบิน โทนี่ทำงานในธุรกิจดนตรีมา 12 ปีและเมื่อเขาบอกคนรอบตัวว่าจะทำสายการบินของตัวเอง ปฏิกิริยาตอบกลับที่ได้คือเสียงหัวเราะ แม้แต่ภรรยาของเขาในตอนนั้น เพราะไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำสำเร็จ


แต่เพราะโทนี่ไม่ปล่อยให้เสียงสะท้อนเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อความมุ่งมั่นของเขาและไม่กลัวที่จะล้มเหลว เขาเชื่อในไอเดียของตัวเอง และถ้ามันจะไม่เป็นตามที่คิด อย่างน้อยเขาก็ถือว่าได้พยายามแล้ว


สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในระยะเวลาสั้นๆ


ชื่อและโลโก้ของแบรนด์เป็นสิ่งที่จะดึงดูดความสนใจคนได้ในทันทีที่เห็น การสื่อสารแบรนด์ให้มีภาพจำเพียงภาพเดียวจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลังเข้าเทคโอเวอร์สายการบินแอร์เอเชีย โทนี่เปลี่ยนโลโก้จากรูปนกสีน้ำเงินมาเป็นโลโก้แอร์เอเชียสีแดงที่เราเห็นและจำได้แม่นยำอย่างทุกวันนี้


เขาฝากคำแนะนำถึงธุรกิจใหม่ๆ ว่า ถ้าอยากดึงดูดความสนใจคนได้ในเวลาสั้นๆ และสร้างการจดจำแบรนด์ได้ ควรเลือกชื่อที่ติดหู จำง่าย และสำหรับโลโก้ควรใช้รูปและสีที่เด่นๆ เพียงรูปเดียว สีเดียวเท่านั้น เพราะจะช่วยให้คนจำได้ง่ายกว่า


คนคือทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด


โทนี่กล่าวว่าแอร์เอเชียจะไม่สามารถขยายจากพนักงาน 200 คนในวันที่เขาซื้อกิจการมาเป็น 17,000 คนอย่างในปัจจุบันนี้ได้ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถของพนักงานในบริษัท ผู้บริหารระดับสูงของแอร์เอเชียหลายคนเติบโตจากตำแหน่งปฏิบัติการ เขาอธิบายว่างานของเขาคือการเจียระไนเพชรดิบให้เป็นเพชรเม็ดงาม ด้วยการเปิดโอกาสและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนเหล่านั้นว่าพวกเขามีศักยภาพมากกว่าที่ตัวเองคิด


สร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งจากภายในองค์กร


แอร์เอเชียให้ความสำคัญอย่างมากกับการทำให้พนักงานเข้าใจแบรนด์อย่างแท้จริง เพราะโทนี่มองว่าทุกคนที่ทำให้งานให้เขาก็คือภาพสะท้อนของแบรนด์และเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ เขาจึงมีแผนก culture ซึ่งรับผิดชอบในการสร้างแบรนดิ้งภายในองค์กรโดยเฉพาะ


สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ทุกคนกล้าเสนอความคิดเห็น


โทนี่ตั้งใจให้แอร์เอเชียเป็นองค์กรที่ทุกคนกล้าถามและไม่กลัวที่จะเสนอไอเดียของตัวเองได้ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ตำแหน่งใดก็ตาม เพราะเขาเชื่อว่า การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองเป็นผลดีและนำมาซึ่งสิ่งใหม่ๆ ให้กับบริษัทมากกว่าที่จะให้หน้าที่นี้จำกัดอยู่แต่เฉพาะคนที่ทำงานในระดับบริหารเท่านั้น


ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และการทำการตลาด


บอสใหญ่แห่งแอร์เอเชียมองว่า ต่อให้มีไอเดียดีที่สุดในโลก แต่ไม่รู้จักวิธีทำให้ไอเดียนั้นแพร่หลาย หรือไม่ให้ความสำคัญกับการทำการตลาด ไอเดียนั้นก็จะไม่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้


เทคโนโลยีคือพันธมิตรในการทำธุรกิจ


เบื้องหลังความสำเร็จอย่างหนึ่งของแอร์เอเชียคือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับโปรดักต์ โทนี่เล่าว่าตอนที่เขาเริ่มธุรกิจนี้นั้น แอร์เอเชียเป็นสายการบินแรกๆ ที่เปิดให้จองตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ต ต่างจากปัจจุบันที่ราว 85 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจสายการบินขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ตและคนส่วนใหญ่ซื้อตั๋วผ่านโทรศัพท์มือถือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าและบริการจึงเป็นหัวใจอย่างหนึ่งในการสร้างความสำเร็จ


โซเชียลมีเดียคืออาวุธสำคัญ


ปัจจุบัน แอร์เอเชียมีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ รวมกันประมาณ 42 ล้านคน เฉพาะทวิตเตอร์ส่วนตัวของโทนี่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน เขาบอกว่าข้อความที่เขาได้รับผ่านทางโซเชียลมีเดียนั้นมีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ เพราะหลายครั้งเป็นการร้องเรียนบริการของสายการบิน ซึ่งเขามองว่าการร้องเรียนนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้บริษัทได้เข้าใจตลาดและได้ยินเสียงผู้บริโภคอย่างแท้จริง ดังนั้น ธุรกิจในยุคนี้ควรใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์

ทุกที่มีปัญหา


โทนี่ให้ข้อคิดว่า ถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน ปัญหาคือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ แอร์เอเชียเองเคยผ่านสถานการณ์ที่เรียกว่าเป็นวิกฤตมาหลายต่อหลายครั้ง แต่แทนที่จะใช้วิธียกเลิกไฟลท์อย่างที่หลายๆ สายการบินทำ โทนี่และทีมงานของเขาเลือกมองว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร เพื่อให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้และขณะเดียวกันก็มีผลดีในระยะยาวด้วย


ก่อนลงจากเวที ซีอีโอแอร์เอเชียยังให้ข้อคิดสั้นๆ อีก 3 เรื่องว่า “Dream the impossible.” อย่ากลัวที่จะฝันถึงที่สิ่งที่ดูไม่น่าเป็นไปไม่ได้และอย่าปล่อยให้คนอื่นบอกว่าเราทำไม่ได้ “Never take no for an answer.” อย่าหมดความพยายามง่ายๆ ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธสักกี่ครั้งก็ตาม และ “Believe the unbelievable.” เชื่อในสิ่งที่ดูเหลือเชื่อเพราะมันอาจเกิดขึ้นได้จริง แบบเดียวกับที่โทนี่และทีมของเขาทำให้เกิดขึ้นกับแอร์เอเชียมาแล้ว


Cr. Sanook! Money

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กฎหมายเป็นสถาบันหนึ่งภายในระบบสังคม มีหน้าที่ในการควบคุมให้สังคมดำเนินไปอย่างสงบสุข 

กฎหมายในฐานะที่มีหน้าที่ในการควบคุมสังคมโดยการวางแผนตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ 
จึงมีข้อปลีกย่อยมากมาย ดังนั้นแม้ว่าไม่สามารถจะกำหนดถึงหน้าที่ของกฎหมายทั้งหมดได้ 
แต่สามารถกล่าวถึงหน้าที่ของกฎหมายโดยสรุปได้เป็นประเด็นใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

1. กฎหมายมีหน้าที่รักษากฎพื้นฐานของการมีชีวิตอยู่ร่วมกัน

แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะกำหนดยาก เพราะกฎเกณฑ์พื้นฐานการมีชีวิตอยู่ร่วมกันของมนุษย์นั้นต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายของสังคม ค่านิยม และความเชื่อในเรื่องความดีและระเบียบเฉพาะซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมแต่ละสังคม แต่หลายคนก็ยอมรับหน้าที่นี้ของกฎหมาย

2. กฎหมายมีหน้าที่ระงับข้อพิพาทของสมาชิกที่อยู่ร่วมกันในสังคม

นั่นก็คือการหาข้อยุติความขัดแย้งระหว่างปัจเจกชนกับกลุ่มชนในสังคม โดยที่สมาชิกของสังคมต้องยมอรับระเบียบสามัญร่วมกัน เพื่อความกลมกลืนของชุมชน

3. กฎหมายมีหน้าที่ประกันและปกป้องความสัมพันธ์ทางการผลิต
อันได้แก่ ผลผลิต ที่เกิดขึ้นจากทรัพยากร รวมทั้งหาทางแจกจ่ายทรัพยากรเหล่านั้น ด้วยความยุติธรรม

หน้าที่ทั้งสามของกฎหมาย คือการรักษาวิถีชชีวิตที่สงบ การสร้างความสามัคคีกลมเกลียว และแจกจ่ายทรัพยากร เมื่อพิจารณาจากหน้าที่หลักของกฎหมายดังที่กล่าวไว้ จะเห็นได้ว่าหน้าที่ทุกอย่างต้องมี "ความยุติธรรม" เป็นหลักการสำคัญ เป็นส่วนประกอบอยู่ในตัว เพราะหากกฎหมายขาด ความยุติธรรมแล้ว สังคมก็ไม่อาจอยู่ด้วยความเป็นธรรมได้ ดังนั้น หน้าที่หลักของกฎหมายที่ควรจะเป็นคือ การสร้างความยุติธรรม กฎหมายจึงเป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ที่สุด

มาตรการ หมายถึง วิธีการที่ตั้งเป็นกฎ ข้อกำหนด ระเบียบ หรือ กฎหมาย เช่น ใช้มาตรการเด็ดขาด วางมาตรการในการปราบปรามผุ้ร้าย วิธีการที่จะปรับเข้าสู่ความสำเร็จ เช่น วางมาตรการในการดำเนินงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก

CR. ฉลอง ช่วยธานี

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559


คุณครูท่านหนึ่งเล่าเรื่องโจ๊กให้นักเรียนฟังก่อนเลิกเรียนว่า..

มีคนไข้ประจำคนหนึ่ง มาหาหมอคนเดิมเป็นเวลาหลายปี

จนส่งเสียให้ลูกเรียนจนจบหมอ

วันหนึ่ง คนไข้ประจำคนนี้มาหาหมออีก พอดีหมอผู้เป็นพ่อไม่อยู่ ลูกหมอที่พึ่งเรียนจบ

จึงตรวจให้คนไข้ประจำคนนี้ เสร็จแล้วก็จัดยาให้ตามที่ตัวเองรู้

เมื่อคนไข้กลับไป หมอผู้เป็นลูกก็ถามหมอผู้เป็นพ่อว่า 

โรคของคนไข้คนนี้มันก็ไม่ได้รักษายากอะไร ? ทำไมพ่อใช้เวลารักษาเขาตั้งนาน ?"

หมอผู้เป็นพ่อ ไอ้โง่ เอ็งคิดว่า ค่าเล่าเรียนของเอ็งตั้งหลายปีมาจากไหน ?”


มีเรื่องเกิดขึ้นจริงในทำนองเดียวกัน

มีอยู่ประเทศหนึ่ง มีปัญหาแล้งทุกปี และดูทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี

ฉันเคยแอบคิดว่า คนที่รับผิดชอบเรื่องน้ำของประเทศนั้น มันทำไมโง่นักว่ะ

มันก็ไม่ได้เพิ่งมาแล้งปีแรก มันแล้งกันมาตั้งหลายปี ทำไมแก้ไม่ได้สักที

อีกอย่างรู้ทั้งรู้ว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศต้องอาศัยน้ำเพื่อทำการเกษตร

ทำไมไม่ทุ้มกำลังเงินและกำลังสติปัญญา เพื่อบริหารจัดการน้ำของประเทศให้ดีขึ้น



ความสงสัยที่ฉันแอบคิดนี้ก็ถึงบางอ้อทันที

เมื่อได้อ่านเรื่องโจ๊กของหมอที่คุณครูท่านนั้นเล่าให้นักเรียนฟัง

ฉันลองเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกันดู ถ้าแล้งทุกปี ก็มีงบฉุกเฉินทุกปี



ชาวนาทำนาไม่ได้ เดี๋ยวรัฐบาลก็ช่วย เมื่อมีทุกปี ก็กินเล็กน้อยได้ทุกปี

ถ้าแก้หาย ก็ไม่มีเรื่องให้เบิกงบฉุกเฉิน แล้วเขาจะเอาความมั่งคั่งมาจากไหน

ลำพังแค่เงินเดือนที่ได้ไม่พอที่จะอวดรวยได้หรอก ?


วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

"อะไรที่เราควรทำ"
เราทุกคนค้นหางานที่เราชอบ งานที่เรารัก งานที่ใจเราต้องการ  แต่กว่าที่จะเจองานแบบที่ว่านี้ อาจต้องเสียเวลาไปทั้งชีวิต หรือบางคนสิ้นชีวิตไปแล้วก็ยังหาไม่เจอ
งานทุกอย่างในชีวิตที่เราทำอยู่ ณ ปัจจุบันอาจไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป มันคือบทเรียนอันล่ำค้าที่เราจะได้รับ แต่เนื่องจากเรามีเวลา มีเรี่ยวแรง มีพละกำลังอยู่อย่างจำกัด เราจึงควรเลือกทำงานโดยยึดหลักที่ว่า
- งานนั้นมีประโยชน์ต่อคนหมู่มากไหม
-เอาไปใช้งานได้จริงไหม
-ประหยัดเวลาชีวิตของเราไหม
-ประหยัดทรัพยากรไหม

อย่างไรก็ตาม คุณคือคนที่รู้ว่าคำแนะนำอันไหนที่ใช้การได้ดีกับตัวคุณ

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

On 01:04 by EForL in    No comments
จรรยาบรรณ เป็นจริยธรรมพื้นฐานของอาชีพต่าง ๆ
ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ เช่นจรรยาบรรณของอาชีพครู
ต้องรักและเมตตาศิษย์โดยให้เอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม
ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
จรรยาบรรณวิศวกร ต้องรับผิดชอบและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อสวัสดิภาพ สุขภาพ ความปลอดภัยของสาธารณชน เป็นต้น
อาชีพใดที่มีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ก็ยิ่งจำเป็นจะต้องมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสูงตามไปด้วย
ปัจจุบันสื่อมวลชนและบริษัทโฆษณา มีอิทธิพลต่อความคิดของคนเป็นจำนวนมาก ถ้าสื่อต่างฝ่ายต่างแข่งกันพาดหัว
โปรยชื่อเรื่องด้วยการใช้คำหวือหวา
เพราะเชื่อว่ายิ่งแรงยิ่งฉาว ยิ่งขายได้
โดยไม่สนใจในจรรยาบรรณวิชาชีพของต้นเอง
แล้วคนที่รับสื่อจะเป็นอย่างไร เคยตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการไม่รับผิดชอบต่อสังคมบ้างหรือไม?

จรรยาบรรณสื่อสารมวลชนสากล 23 ข้อ ประกอบด้วย
1. ต้องกระทำตนให้อยู่ในขอบเขตของความเหมาะสม มีกริยาดี
2. ไม่สร้างข่าวขึ้นเอง
3. ต้องเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมดแก่ผู้รับสาร
4. ไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น
5. ไม่บังคับบุคคลให้พูด
6. ซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่ต่อสู้เพื่อสังคม
7. ซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่นำมากล่าวถึงในคอลัมน์
8. รักษาไว้ซึ่งความลับของแหล่งข่าว
9. ไม่ปิดบังอำพรางข่าวที่นำเสนอ
10.ไม่ควรขายข่าว ขายคอลัมน์เพื่อเงิน หรือความพอใจส่วนตัว
11. ละเว้นจากการเข้าร่วมพรรคการเมือง
12. ต้องบริการคนส่วนรวม มิใช่บริการคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
13. ช่วยต่อสู้และปราบปรามอาชญากร
14. ต้องเคารพ และช่วยผดุงกฏหมายบ้านเมือง
15. สร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ชุมชน
16. ไม่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างญาติและเพื่อนของผู้อื่น
17. คำนึงว่าการหย่าร้าง การฆ่าตัวตายนั้น
เป็นปัญหาสังคมสิ่งหนึ่งไม่ควรเสนอข่าวไปในเชิงไม่สุภาพ
18. อย่ากล่าวโจมตีคู่แข่ง
19. อย่าหัวเราะเยาะความวิกลจริต จิตทราม
หรือพลาดโอกาสของบุคคลอื่น
20. เคารพนับถือวัด โบสถ์ เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ของบุคคล
21. หน้ากีฬาควรเขียนถึงทุกๆ คน
22. แก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในทันที
23. จำไว้ว่าข่าวที่นำเสนอนั้น มีเยาวชนชายหญิงอ่านด้วย
อ้างอิงจากศูนย์ศึกษากฏหมายและนโยบายสื่อมวลชน
http://www.thaimedialaw.org/

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558



คุณธนพ เอี่ยมอมรพันธ์ เป็นนักธุรกิจค้าเพชรและนาฬิกาแบรนด์หรู แล้วยังเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนตัวจริง ได้เปิดเผยในเวที โพสต์ทูเดย์ อินเวสเม้นท์ เอ็กซโป  ในหัวข้อ ให้เงินทำงานว่า ตนเองนั้นทดลองบริหารเงินและให้เงินทำงานจากเงินจำนวนน้อยให้กลายเป็นจำนวน มาก และจากเงินจำนวนมากกลายเป็นศูนย์มาแล้ว เรียกว่าผ่านประสบการณ์มาหลายรูปแบบ โดยเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 19 ปี ครั้งเมื่อศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1997 ในขณะทิ่เกิดวิฤกตต้มยำกุ้งในประเทศไทย พ่อซึ่งส่งเงินให้เรียนในต่างประเทศส่งเงินมาให้จำนวนหนึ่งแล้วบอกว่า นี่เป็นก้อนสุดท้ายแล้วที่เหลือให้หาเอาเอง
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ธนพ จึงลุกขึ้นมาหาทางให้เงินทำงานจากแบบอย่างที่เห็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการ เงินที่เล่นหุ้นในตลาดหุ้นภายในเวลาไม่กี่วันก็มีเงินจำนวนมาก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยทำให้ต้องสูญเสียเงินไปจำนวนมากเช่นกัน แต่ความสูญเสียก็ไม่ได้นำมาซึ่งความสูญเปล่า กลายเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจการเงินใน ปัจจุบันนั้นเอง
ธนพ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจในขณะนี้จะว่าฟื้นตัวอย่างชัดเจนก็ไม่เชิง เพราะหากมองลงไปในเชิงลึกแล้วจะเห็นได้ว่า หลายบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐแม้จะมีตัวเลขทางบัญชีที่สวยงามเป็นบวกไม่ขาดทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นของตน แต่จริงๆ แล้ว ก่อนที่บริษัทเล่านั้นจะมีบัญชีทางด้านการเงินที่สวยงาม พวกเขาได้ปลดลดพนักงานลงเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีหนี้ค้าง หรือมีกำไรมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ว่างงานในสหรัฐอเมริกามากถึง 4.8 แสนคน คนว่างงานมากแสดงว่าเศรษฐกิจไม่ดี

ทั้งนี้ หากจะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวจริงหรือไม่ต้องไปดูที่ค่าเศรษฐกิจที่แท้จริงว่าผู้ประกอบการร้าน ค้าขนาดเล็กจะอยู่รอดได้หรือไม่ เมื่อมีจำนวนคนว่างงานมากขนาดนี้ ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทประกาศล้มละลายไปแล้ว ดังนั้นร้านค้าที่เป็นค้าของเศรษฐกิจที่แท้จริง หรือเรียลเซกเตอร์ จะไม่มีรายได้ แล้วเศรษฐกิจจะฟื้นอย่างไร ต้องดูต้องไปว่า โอบามาจะแก้ป้ญหาเศรษฐกิจนับต่อจากนี้ไปอย่างไร

ไปดูตลาดอื่นๆ บ้าง อย่างตลาดยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะ เป็นอย่างไร แต่ตลาดที่น่าสนใจจริงๆ คือ จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย ถือได้ว่าเป็นโอกาส ของตลาดเอเชีย เนื่อง จีน เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกมีราคาจ้างงานราคาต่ำที่สุด ซึ่งถือเป็นโอกาส เป็นประเทศที่มีการบริโภคมากที่สุดที่เหมาะแกการลงทุนด้านอาหาร
ส่วนญี่ปุ่น เป็นประเทศที่อนุรักษ์นิยมทำให้มีเงินออมมากที่สุด ไม่น่าเป็นห่วง ประเทศอินเดียในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นศูนย์กลางทางด้านไอที และซอฟต์แวร์ของโลก เพราะคนอินเดียมีความรู้ความสามารถด้านไอที ประกอบกับค่าแรงถูก ต่อไปเจ้าของบริษัทในประเทศสหรัฐฯ และยุโรปจะมาจ้างคนอินเดียเป็นคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นประเทศอินเดียจะเป็นประเทศแห่งอุตสาหกรรมไอที คอลเซ็นเตอร์ แหล่งผลิตซอฟต์แวร์

สำหรับประเทศไทย ไม่ว่าจะมีปัญหาทางด้านการเมืองที่รุนแรงอย่างไร และมีปัญหาเศรษฐกิจโลกก็ตามแต่จีดีพีของประเทศก็ไม่ต่ำมากนัก แสดงว่าโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยยังดีอยู่มาก อย่างไรก็ตามถ้าประเทศไทยไม่มีปัญหาทางด้านการเมืองก็นับเป็นโอกาสของประเทศ ไทยที่จะเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างดี

อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานนับต่อจากนี้คาดว่าประเทศไทยจะเกิดภาวะเงินเฟ้อ คือ สินค้าจะมีราคาแพงขึ้น แต่เงินเดือนของคนทำงานจะเท่าเดิม อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินก็จะมีการเปลี่ยนมากขึ้น ดังนั้นวิธีการออมเงินนอกจากนำเงินไปฝากธนาคารแล้วควรจะเก็บไว้ในรูปเงินตรา ต่างประเทศ 7 สกุล เพื่อประกันความเสี่ยงว่าเมื่อเวลาผ่านไป 6 – 9 เดือน เมื่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงเงินจำนวนเดิมจะมีค่าเท่าเดิม โดยเงิน 7 สกุล ที่ควรจะแลกไว้ คือ ดอลล่าร์สหรัฐฯ, ปอนด์อังกฤษ, ยุโร, หยวน, สวิสฟรังซ์, เยน, ดอลล่าร์ออสเตรเลีย

นอกจากนี้ยังควรเก็บเงินสดไว้เป็นเงินฉุกเฉินสัก 30 – 40% ซึ่งเป็นเงินที่เก็บไว้เผื่อหากมีเหตุการณ์คอขาดบาดตายแล้วค่อยนำมาใช้ เป็นต้น

ธนพ กล่าวว่า สำหรับการเล่นหุ้นนั้น ควรซื้อหุ้นที่มีคนซื้อเป็นจำนวนมาก หากหุ้นลงแล้ว 15% ก็ควรรีบขายเลย ไม่ควรรอหรือเสียแล้วไปนำเงินไปซื้อหุ้นอื่นแทน ที่อาจจะขึ้นถึง 50 – 70% จำไว้ว่าไม่ควรเสียดาย หากลงแล้วควรจะขายทันที

สุดท้ายนี้ การลงทุนไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามจะต้องใช้วิจารณญาณให้รอบครอบและไตร่ตรองให้ดี ควรจะอ่านข่าวสารความเปลี่ยนแปลงของโลก และประเทศเป็นประจำเพื่อคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า เวลานี้เหมาะสมจะลงทุน อะไร หรือไม่อย่างไร


CR. posttoday